ประวัติ ของ ลาอินมากูลาดากอนเซปซิออนเดโลสเบเนราเบลส โอเดซุลต์

ข้อมูลจากฆวน อากุสติน เซอัน เบร์มูเดซ ระบุว่าภาพนี้เขียนขึ้นโดยบาร์โตโลเม เอสเตบัน มูริโย โดยได้รับการว่าจ้างจากฆุสติโน เด เนเบ (1625–1685) วุฒิสมณะแห่งอาสนวิหารเซบิยาและประธานฝ่ายสงฆ์ของโรงพยาบาลโอสปิตัลเดโลสเบเนราเบลสในเซบิยา เขาจ้างมูริโยให้เขียนภาพนี้ขึ้นเพื่อเก็บไว้เป็นของสะสมส่วนบุคคล และต่อมาได้บริจาคให้แก่โบสถ์น้อยประจำโรงพยาบาลในปี 1686 ศรัทธาและความเชื่อต่อการปฏิสนธินิรมลของแม่พระได้รับความนิยมสูงมากในสเปนตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และสเปนได้กลายมาเป็นผู้ปกป้องทางสงฆ์อย่างแกร่งกล้า ถึงขั้นที่ไปต่อสู้เพื่อให้ฉากการปฏิสนธินิรมลได้รับการบรรจุเข้าในคำสอนทางการของศาสนจักรคาทอลิก ซึ่งสำเร็จในปี 1854 ฉากการปฏิสนธินิรมลจึงเป็นที่นิยมแพร่หลายในช่วงเวลานี้และปรากฏทั่วไปในงานศิลปะสเปนในยุคนี้[2]

ในปี 1813[2][3] ระหว่างสงครามคาบสมุทร นายพลฌ็อง-เดอ-ดีเยอ ซูลต์ ปล้นภาพเขียนนี้ไปไว้ที่ฝรั่งเศส ทิ้งไว้เพียงกรอบรูปซึ่งยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลจนถึงปัจจุบัน[2] ภาพนี้อยู่ในของสะสมของซูลต์จนเขาเสียชีวิตในปี 1851 ชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของภาพเขียน "การปฏิสนธินิรมลของซูลต์" จึงได้มาจากชื่อของเขา[4]

ภาพเขียนได้รับการประมูลในปี 1852 และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นผู้ชนะประมูลไปด้วยราคา 615,300 ฟรังก์ เป็นที่กล่าวขานว่าเป็นการซื้อภาพเขียนที่แพงที่สุดในเวลานั้น[5] ลูฟวร์จัดแสดงภาพเขียนนี้นับจากนั้นจนปี 1941 ซึ่งอยู่ในช่วงที่ผลงานของมูริโยเริ่มล้าสมัย ลูฟวร์ได้แลกเปลี่ยนของสะสมจำนวนหนึ่งกับสเปน หนึ่งในนั้นคือภาพเขียนนี้ซึ่งแลกเปลี่ยนกับพิพิธภัณฑ์ปราโดที่มาดริด โดยทางมาดริดได้ส่ง ภาพเหมือนบุคคลของมารีอานาแห่งออสเตรีย โดยดิเอโก เบลัซเกซ ให้แก่ลูฟวร์[5] ในปี 1981 อันโตนิโอ เฟร์นันเดซ เซบิยา ผู้เชี่ยวชาญการซ่อมแซมงานศิลปะประจำพิพิธภัณฑ์ปราโด ได้เริ่มการซ่อมแซมระดับผิวอย่างระมัดระวัง เพื่อเตรียมผลงานออกแสดงในนิทรรศการรวมผลงานของมูริโย มีการซ่อมแซมในเชิงลึกอีกครั้งหนึ่งในปี 2007[3]